เปิดร้านขายราดหน้าแฟรนไชส์
ร้าน “ราดหน้าอาหลิว” นำสูตรโบราณของรุ่นพ่อ เมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว กลับมาให้บริการคนเมืองรุ่นใหม่ จนประสบความสำเร็จทั้งด้านยอดขาย และชื่อเสียง พร้อมต่อยอดความสำเร็จ โดยอาศัยช่องว่างตลาดรุกขายแฟรนไชส์ วางตำแหน่งให้เป็นร้านราดหน้าเกรดเอครองใจลูกค้าระดับกลางบนขึ้นไป
ฌานิน เลาทองดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดี เรสเตอรองท์ จำกัด เจ้าของร้านราดหน้าอาหลิว เล่าว่า เปิดร้านมาประมาณ 4 ปี อยู่บริเวณถนนสิรินธร ใกล้สี่แยกบางพลัด โดยนำสูตรของคุณพ่อที่เคยเปิดร้านราดหน้าเล็กๆ ตั้งแต่ พ.ศ.2505 กลับมาขายอีกครั้ง มีจุดเด่นความอร่อยจากเส้นผัดน้ำมันมีกลิ่นไหม้อ่อนๆ น้ำราดรสกลมกล่อม และทีเด็ดจากเนื้อหมูนุ่ม
ราดหน้าชุบไข่ เมนูดังประจำร้าน
นอกจากนั้น ยังสร้างสรรค์เมนูแปลกใหม่ของตัวเอง แตกต่างจากราดหน้าในท้องตลาด เช่น ราดหน้าคลุกไข่ นำเส้นก๋วยเตี๋ยวชุบกับไข่สดแล้วค่อยทอด เสริมด้วยเมนูอื่นๆ เช่น ราดหน้าทะเล ผัดซีอิ้ว ข้าวผัด แฮกิ้น ทอดมันกุ้ง ฯลฯ
ผัดเส้นให้มีกลิ่นหอมไหม้อ่อนๆ
ผัดเส้นให้มีกลิ่นหอมไหม้อ่อนๆ
“ร้านได้การตอบรับของลูกค้าดีขึ้นสม่ำเสมอ ลูกค้าหลักเป็นกลุ่มครอบครัว และคนทำงาน เฉลี่ยต่อคนจะกินในร้านประมาณ 70 บาท พร้อมกับซื้อกลับไปบ้าน เบ็ดเสร็จ ใช้จ่ายประมาณ 100 บาทต่อคน รายได้เฉพาะสาขานี้ประมาณหนึ่งหมื่นบาทต่อวัน” ฌานิน เล่า
ราดหน้าไข่เจียว
จากนั้น ได้ขยายสาขาเพิ่มอีก 4 แห่ง เปิดด้วยตัวเอง 2 แห่ง คือ สาขาตลาดต้นสน สาขาศูนย์อาหาร ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ และอีก 2 สาขา เปิดลักษณะขายแฟรนไชส์ คือ สาขาเบญจจินดา บางเขน และสาขา ซ.ปรีดีพนมยงค์ ทุกแห่งมียอดขายเฉลี่ย 4,000-5,000 บาทต่อวัน
ภายในร้านสาขาถนนสิรินธร ใกล้สี่แยกบางพลัด
ภายในร้านสาขาถนนสิรินธร ใกล้สี่แยกบางพลัด
เขา ระบุสาเหตุการขยายแฟรนไชส์ มาจากเห็นช่องว่างที่ยังไม่มีแฟรนไชส์ราดหน้าเจ้าใดเลยเป็นเจ้าตลาดอย่างเด่นชัด อีกทั้ง คู่แข่งใน
เปิดร้านขายราดหน้าแฟรนไชส์
ตลาดยังมีอยู่น้อย ยิ่งเจาะจงเป็นราดหน้าที่ยกระดับเป็นแบบร้านเพื่อลูกค้าระดับกลางขึ้นไปยังไม่มีเจ้าใดเลย
ปัจจัยดังกล่าว เมื่อรวมกับชื่อเสียงร้าน ยอดขายที่ดีทุกสาขา นอกจากนั้น บริษัทมีพื้นฐานทำธุรกิจอาหารอีกหลายด้าน โดยเฉพาะแฟรนไชส์พิซซ่า “Spicchio” ทำให้เชื่อว่า ด้วยปัจจัยพร้อมทุกด้าน สามารถต่อยอดธุรกิจเปิดขายแฟรนไชส์ราดหน้าอาหลิวได้
ปัจจัยดังกล่าว เมื่อรวมกับชื่อเสียงร้าน ยอดขายที่ดีทุกสาขา นอกจากนั้น บริษัทมีพื้นฐานทำธุรกิจอาหารอีกหลายด้าน โดยเฉพาะแฟรนไชส์พิซซ่า “Spicchio” ทำให้เชื่อว่า ด้วยปัจจัยพร้อมทุกด้าน สามารถต่อยอดธุรกิจเปิดขายแฟรนไชส์ราดหน้าอาหลิวได้
เงื่อนไขแฟรนไชส์ราดหน้าอาหลิว เงินลงทุนเบื้องต้น ประมาณ 140,000 บาท แบ่งเป็นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 40,000 บาท อายุสัญญา 5 ปี ค่าอุปกรณ์ครบถ้วนภายในร้าน 60,000 บาท และค่าออกแบบตกแต่งสถานที่ 40,000 บาท อย่างไรก็ตาม อัตราดังกล่าว อาจจะปรับขึ้นลงแล้วแต่ขนาดพื้นที่และทำเลร้าน
รูปแบบแฟรนไชส์เจาะจงต้องเปิดเป็น “ร้าน” เท่านั้น ตกแต่งร้านให้ดูดี และสะอาด เหมาะสมกับลูกค้าเป้าหมายกลุ่มคนระดับกลางขึ้นไป ขณะที่ทำเล ควรอยู่ในจุดที่มีคนสัญจรผ่านสม่ำเสมอ และต้องมีที่จอดรถ
ระบบดูแลคุณภาพ กำหนดต้องรับวัตถุดิบหลักจากบริษัท 3 อย่าง ได้แก่ 1.หมูหมัก ในราคากิโลกรัมละ 140 บาท 2.น้ำซุปแป้งราดหน้า และ 3.เต้าเจี้ยวกับกระเทียมบด ซึ่งทั้ง 3 วัตถุดิบนี้จะเป็นตัวกำหนดรสชาติความอร่อย ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ใช้วิธีแนะนำการเลือกซื้อ
ระบบดูแลคุณภาพ กำหนดต้องรับวัตถุดิบหลักจากบริษัท 3 อย่าง ได้แก่ 1.หมูหมัก ในราคากิโลกรัมละ 140 บาท 2.น้ำซุปแป้งราดหน้า และ 3.เต้าเจี้ยวกับกระเทียมบด ซึ่งทั้ง 3 วัตถุดิบนี้จะเป็นตัวกำหนดรสชาติความอร่อย ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ใช้วิธีแนะนำการเลือกซื้อ
นอกจากนั้น หัวใจสำคัญที่สุด คือ คัดเลือกผู้มาร่วมธุรกิจ เจาะจงต้องเป็นคนมีใจอยากเป็นผู้ประกอบการจริงๆ และลงมือทำด้วยตัวเอง โดยก่อนเปิดร้านมีเงื่อนไข ต้องมาฝึกงานที่ร้านต้นแบบ 1 เดือน เพื่อเรียนรู้ทั้งวิธีทำต่างๆ เช่น ผัดเส้นให้หอมกลิ่นไหม้อ่อนๆ การทำผักกรอบสด การบริหารร้าน ดูแลต้นทุน เป็นต้น
และหลังจากเปิดร้านของตัวเองแล้ว จะมีทีมซุ่มตรวจคุณภาพสม่ำเสมอ และมีรถแช่เย็นวิ่งส่งวัตถุดิบให้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
เจ้าของธุรกิจ เผยด้วยว่า เบื้องต้น สาขาแฟรนไชส์จะมีเฉพาะเมนูราดหน้าหมูอย่างเดียว เพื่อสะดวกต่อการดูแลมาตรฐาน กำหนดราคาขายปลีก ชามละ 30-35 บาท ต้นทุนอยู่ที่ชามละประมาณ 45-50% เมื่อคำนวณจากยอดขายเฉลี่ยร้านต้นแบบ ที่ประมาณ 4,000-5,000 บาทต่อวัน แฟรนไชส์จะมียอดขายรวม 120,000-150,000 บาทต่อเดือน เมื่อหักค่าวัตถุดิบ ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค และค่าพนักงาน จะเหลือกำไรสุทธิ ประมาณ 20,000-30,000 บาทต่อเดือน อัตราคืนทุนอยู่ที่ 5-7 เดือน
ขณะที่แผนส่งเสริมการตลาด ทางบริษัทจะออกงานแสดงสินค้าแนะนำแบรนด์ต่อเนื่อง รวมถึง จัดโปรโมชั่นและออกเมนูใหม่เสมอ อีกทั้ง บริษัทยังได้รับคัดเลือกจากธนาคารกสิกรไทย ให้เป็นหนึ่งในธุรกิจที่จะได้รับการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อลงทุนแฟรนไชส์ โดยวางเป้าหมาย ถึงสิ้นปีนี้ (2554) จะขยายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มอีก 6 สาขา
“แม้ราดหน้าจะเป็นอาหารที่ความถี่ในการกินจะน้อย อย่างมากสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แต่เมื่อเทียบกับความต้องการของลูกค้า และคู่แข่งที่ยังน้อย ผมเชื่อว่า มีช่องว่างที่เราจะแทรกตัวไปได้ โดยหัวใจสำคัญของการทำแฟรนไชส์ให้สำเร็จ ผมคิดว่าต้องไปพร้อมๆ กัน 5 ด้าน คือ ระบบบริหาร ตัวสินค้า บุคลากร โปรโมชั่น และการเงิน หากตัวใดตัวหนึ่งบกพร่องจะกระทบด้านอื่นๆ ตามไปด้วย ดังนั้น ผมพยายามทำทั้ง 5 ด้านให้พร้อมที่สุด” ฌานิน ระบุ
โทร.08-3036-8381 , 0-2652-2995
โทร.08-3036-8381 , 0-2652-2995
ขอบคุณบทความ เเละ ภาพจาก ผู้จัดการ
No comments:
Post a Comment