การลงทุนเปิดร้านขายพวงมาลัยดอกไม้
พวงมาลัยดอกไม้ ทำเป็นเล่นไปนะครับกำไรดีมากครับ เเต่คนไปมองเด็กขายพวงมาลัยสี่เเยกอะไรเเบบนี้ ถ้าลงไปดูจริงๆกำไรดีมากครับ ยิ่งวันพระนี่ยิ่งขายดีครับ นี่ผมพูดเอามันล้วนๆเลยครับ เเต่ที่เรามองเห็นคนขายพวงมาลัยเเล้วจนเนี่ยเพราะเค้าเป็นหนี้เยอะครับโดนไอ้พวกสถุล สะกดอย่างงี้เปล่าหว่า สถุลเนี่ย จ่ายหนักมากครับ เเต่ถ้าใครเปิดร้านขายดอกไม้ เเล้วเปิดสินค้าในส่วนนี้
กำไรกว่าเท่าตัวเลยครับคือต้องมาดูนะครับว่าทำไมกำไรมันเยอะขนาดนั้นเพราะ พวงมาลัยส่วนใหญ่เค้าใช้ดอกอะไรกันหละครับก็ดอกมะลิเป็นหลักเลย เเล้วขายพวงนึง 30-40 บาทเเล้วคิดว่ากำไรเท่าไหร่ครับ ขนาดรับมายังไรเป็นกอบเป็นกำเลยครับ ทางที่ดีคือคุณควรมีหน้าร้านครับเช่นถ้าคุณขายดอกไม้ด้วยเเล้วยิ่งดีใหญ่เลยเพราะมันไปด้วยกันได้ ครับ อีกข้อหนึ่งครับถ้า เราสามารถล้อยเป็นนี่ยิ่งดีใหญ่ครับ
อันนี้ความเห็นเพิ่มเติมนะครับ
จากการคร่ำหวอดในแวดวงคนขายพวงมาลัยมานานโขทำให้คุณอุ๋ยมีเทคนิคสำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับอาชีพนี้ไม่น้อยและเธอยินดีเผยแบบไม่ปิดบัง โดยเริ่มต้นให้ฟังว่า ช่วงวันโกน และวันพระสินค้าในร้านของเธอ ทั้งพวงมาลัยและดอกไม้กำ จะขายดีกว่าวันธรรมดา ดังนั้นการลงทุนในช่วงเวลาดังกล่าวจึงต้องมากขึ้นด้วย เช่น วันธรรมดาลงทุน 3,000บาท แต่ถ้าเป็นวันโกนหรือวันพระอาจต้องลงทุนถึง 6,000 บาทซึ่งกำไรที่ได้ไม่น่าจะต่ำกว่าวันละ 500-600 บาท
คุณอุ๋ยบอกอีกว่า การที่ต้องไปซื้อดอกไม้ที่ปากคลองตลาดเองทุกวันเพราะเธอไม่ได้มีร้านผูกขาดจึงอยากเลือกด้วยตัวเองอีกทั้งราคาขายดอกไม้ที่นำมาร้อยพวงมาลัยนั้นมักขยับขึ้นตามเทศกาลและสภาพอากาศ เช่น ฝนตกราคาขึ้น วันพระ วันโกนราคาก็ขยับ ยกตัวอย่าง ดอกมะลิ ช่วงวันธรรมดา 1 ลิตร หรือน้ำหนัก 7 ขีดราคาอยู่ที่ 100 บาท แต่ถ้าวันพระหรือวันโกน ขายลิตรละ 150 บาทดอกดาวเรือง วันนี้ขายดอกละ 1.20 บาท แต่ช่วงถูกๆ ดอกละ 30 สตางค์ ก็มีขายหรือแม้แต่ดอกรัก เมื่อวานลิตรละ 20 บาท วันนี้ขึ้นเป็นลิตรละ 40 บาท
การที่ราคาของวัตถุดิบหลักไม่นิ่งพอนั้นครั้นเจ้าของกิจการจะขึ้นหรือลดราคาขายหน้าร้านให้แปรผันตามราคาวัตถุดิบคงไม่เข้าที คุณอุ๋ย จึงใช้วิธีการ “ลดสัดส่วน” ของที่ใช้ก่อนยกตัวอย่างให้ฟังว่า พวงมาลัยที่ขายจะไม่ขึ้นลงตามวัตถุดิบแต่จะใช้วิธีการลดสัดส่วนของวัตถุดิบ เช่นวันนี้ซื้อมะลิมาในราคาถูกจะใส่มะลิลงไปในพวงมาลัยประมาณ 10 แถว หรือ 40ดอก แต่ถ้าวันไหนซื้อมะลิมาแพงจะใส่มะลิแค่ 8 แถว ก็พอ
“พวงมาลัยที่เราขายต้องมีมะลิตลอด แม้ช่วงตรุษจีน ปีใหม่ ดอกมะลิจะแพงมากเคยสูงถึงลิตรละ 700-1,000 บาท ก็ยอมซื้อ แต่จะร้อยลงไปประมาณ 10 ดอกแล้วใส่ดอกรักลงไปแทน อย่างวันก่อนมะลิ ลิตรละ 150 บาท เราใส่มะลิแค่ 6แถว วันนี้ราคาลงเหลือ 100 บาท เราใส่ 8 แถว แต่สามารถขายได้ในราคาเดิมพวงละ 10 หรือ 20 บาท” คุณอุ๋ย เผยเทคนิค
ถัดมาถามถึงเทคนิคการขายดอกไม้สดให้มีกำไร เจ้าของกิจการ บอกว่า ดอกไม้สดหรือดอกไม้กำจะขายดีช่วงวันอังคารกับวันพฤหัสบดี เพราะคนมักซื้อกุหลาบไปไหว้ เสด็จพ่อร.5 กันมาก จึงต้องซื้อมาเพิ่มกว่าปกติ อย่างวันธรรมดา ซื้อมาขาย 8 ห่อส่วนวันอังคาร-พฤหัสบดี จะซื้อประมาณ 10-12 ห่อ
“กุหลาบเกรดเอต้นทุนอยู่ที่ดอกละ 3 บาทกว่า มาขายต่อดอกละ 6-7 บาท กำไรเกือบเท่าตัวแต่ขายไม่ได้ทุกดอก เพราะบางกำมีกิ่งที่หักเป็นจำนวนมากแต่ไม่ถึงกับขาดทุนอาจได้กำไรน้อยหน่อยถ้าจังหวะซื้อมาสวยหมดทั้งห่อคงได้กำไรดี แต่การซื้อมาทั้งห่อจะแกะออกดูก่อนไม่ได้นอกจากวันหลังจะกลับไปต่อว่าคนขายให้” คุณอุ๋ยเล่ายิ้มๆ
คุณอุ๋ยบอกอีกว่า การที่ต้องไปซื้อดอกไม้ที่ปากคลองตลาดเองทุกวันเพราะเธอไม่ได้มีร้านผูกขาดจึงอยากเลือกด้วยตัวเองอีกทั้งราคาขายดอกไม้ที่นำมาร้อยพวงมาลัยนั้นมักขยับขึ้นตามเทศกาลและสภาพอากาศ เช่น ฝนตกราคาขึ้น วันพระ วันโกนราคาก็ขยับ ยกตัวอย่าง ดอกมะลิ ช่วงวันธรรมดา 1 ลิตร หรือน้ำหนัก 7 ขีดราคาอยู่ที่ 100 บาท แต่ถ้าวันพระหรือวันโกน ขายลิตรละ 150 บาทดอกดาวเรือง วันนี้ขายดอกละ 1.20 บาท แต่ช่วงถูกๆ ดอกละ 30 สตางค์ ก็มีขายหรือแม้แต่ดอกรัก เมื่อวานลิตรละ 20 บาท วันนี้ขึ้นเป็นลิตรละ 40 บาท
การที่ราคาของวัตถุดิบหลักไม่นิ่งพอนั้นครั้นเจ้าของกิจการจะขึ้นหรือลดราคาขายหน้าร้านให้แปรผันตามราคาวัตถุดิบคงไม่เข้าที คุณอุ๋ย จึงใช้วิธีการ “ลดสัดส่วน” ของที่ใช้ก่อนยกตัวอย่างให้ฟังว่า พวงมาลัยที่ขายจะไม่ขึ้นลงตามวัตถุดิบแต่จะใช้วิธีการลดสัดส่วนของวัตถุดิบ เช่นวันนี้ซื้อมะลิมาในราคาถูกจะใส่มะลิลงไปในพวงมาลัยประมาณ 10 แถว หรือ 40ดอก แต่ถ้าวันไหนซื้อมะลิมาแพงจะใส่มะลิแค่ 8 แถว ก็พอ
“พวงมาลัยที่เราขายต้องมีมะลิตลอด แม้ช่วงตรุษจีน ปีใหม่ ดอกมะลิจะแพงมากเคยสูงถึงลิตรละ 700-1,000 บาท ก็ยอมซื้อ แต่จะร้อยลงไปประมาณ 10 ดอกแล้วใส่ดอกรักลงไปแทน อย่างวันก่อนมะลิ ลิตรละ 150 บาท เราใส่มะลิแค่ 6แถว วันนี้ราคาลงเหลือ 100 บาท เราใส่ 8 แถว แต่สามารถขายได้ในราคาเดิมพวงละ 10 หรือ 20 บาท” คุณอุ๋ย เผยเทคนิค
ถัดมาถามถึงเทคนิคการขายดอกไม้สดให้มีกำไร เจ้าของกิจการ บอกว่า ดอกไม้สดหรือดอกไม้กำจะขายดีช่วงวันอังคารกับวันพฤหัสบดี เพราะคนมักซื้อกุหลาบไปไหว้ เสด็จพ่อร.5 กันมาก จึงต้องซื้อมาเพิ่มกว่าปกติ อย่างวันธรรมดา ซื้อมาขาย 8 ห่อส่วนวันอังคาร-พฤหัสบดี จะซื้อประมาณ 10-12 ห่อ
“กุหลาบเกรดเอต้นทุนอยู่ที่ดอกละ 3 บาทกว่า มาขายต่อดอกละ 6-7 บาท กำไรเกือบเท่าตัวแต่ขายไม่ได้ทุกดอก เพราะบางกำมีกิ่งที่หักเป็นจำนวนมากแต่ไม่ถึงกับขาดทุนอาจได้กำไรน้อยหน่อยถ้าจังหวะซื้อมาสวยหมดทั้งห่อคงได้กำไรดี แต่การซื้อมาทั้งห่อจะแกะออกดูก่อนไม่ได้นอกจากวันหลังจะกลับไปต่อว่าคนขายให้” คุณอุ๋ยเล่ายิ้มๆ
No comments:
Post a Comment